สาสน์จากท่านพักชก รินโปเชเนื่องในวันระลึกถึงท่านคุรุปัทมสมภพประจำเดือนกันยายน 2557
สวัสดีสหายธรรมทั้งใกล้และไกล
ข้าพเจ้าหวังว่าพวกเธอทุกคนมีความสุขและสบายดีนะ ขณะนี้ข้าพเจ้ากำลังนั่งรถจากจากมหานครนิวยอร์กไปเกาะมาร์ธา วินเยิดช์ เนื่องในวันระลึกถึงท่านคุรุปัทมสมภพประจำเดือนนี้ข้าพเจ้าอยากจะเตือนพวกเธอใน 4 หัวข้อดังต่อไปนี้คือ
- โพธิจิตหรือจิตที่นำไปสู่การตรัสรู้ คือ สิ่งที่สำคัญมากและข้าพเจ้าก็ได้เอ่ยถึงหัวข้อนี้ไปหลายหนแล้ว การปลูกฝังแรงจูงใจที่จะหล่อเลี้ยงโพธิจิตนั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
- มันจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องรู้จักการเตือนตัวเองอยู่อย่างสม่ำเสมอ เพราะว่าพวกเราส่วนใหญ่เป็นคนที่เกียจคร้านมาก ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องรู้จักการเตือนสติตัวเอง เตือนตัวเองเรื่องอะไรนะเหรอ? ก็เรื่องเกี่ยวกับธรรมะ, การคงสภาพอยู่ไม่ได้ของปรากฏการณ์ทั้งหลาย (อนิจจัง) และ ก็เรื่องของโพธิจิตไงล่ะ
- เราจำเป็นต้องเรียนรู้การดำรงตนอยู่ในธรรม การปฏิบัติภาวนาเพียงอย่างเดียวมันไม่เพียงพอหรอกนะ พวกเราต้องรู้จักวิธีการดำรงตนอยู่ในธรรมอย่างถูกต้อง เมื่อสำนึกได้ถึงจุดนี้ การปฏิบัติภาวนาของเราจึงจะมีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดประโยชน์ แต่หากว่าเราสักแต่ภาวนาส่งเดชไปโดยไม่มีความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติที่ถูกต้อง การปฏิบัติแบบผิดๆเองนั่นแหละที่จะไปส่งเสริมความทะนงตน, ความอิจฉาริษยา, การโอ้อวด, และกิเลสตัวเป้งๆอีกนับไม่ถ้วน เพราะฉะนั้นนอกจากปลูกฝังแรงจูงใจที่จะไปหล่อเลี้ยงโพธิจิตในข้อ 1, และรู้จักเตือนตัวเองในประเด็นที่กล่าวถึงในข้อ 2, เธอจำเป็นต้องเรียนรู้การปฏิบัติภาวนาที่ถูกต้อง และ ดำรงตนอยู่ในธรรมด้วยการประยุกต์เอาธรรมะไปใช้ในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็น การสนทนากับคนอื่น, การรับประทานอาหาร, การนอนหลับพักผ่อน, การเดินทาง, หรือไม่ว่าในกิจกรรมใดก็ตาม ธรรมะนั้นสำคัญมากนะ จำเอาไว้
- เธอจำเป็นต้องมีความสามารถที่จะสังเกตและมองเห็นข้อดีและเช่นเดียวกันมองเห็นข้อผิดพลาดของตัวเอง แต่ห้ามหมดกำลังใจจนถึงขั้นที่ว่าเมื่อมองเห็นความผิดของตัวเองแล้วปรุงแต่งต่อไปว่าเราช่างเป็นคนที่แย่เกินเยียวยา แล้วก็เมื่อตระหนักถึงข้อดีของตัวเองก็จงอย่าหลงทะนงตน เพราะทั้งการหมดกำลังใจเมื่อเจอความผิดพลาดหรือหลงทะนงตนเมื่อเห็นข้อดีของตัวเองต่างล้วนเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติภาวนา แต่หากเธอประสบกับ 2 อาการนี้แสดงว่าเธอยังไม่รู้จักการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นพวกเธอทุกคนจำเอาไว้นะว่าเมื่อมองเห็นข้อบกพร่องหรือข้อดีของตัวเองก็จงอย่าเข่าอ่อนหรือหลงทะนงตน
หัวข้อทั้ง 4 นี้เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าอยากจะกล่าวถึงในวันนี้ ในเดือนกันยายนของปีก่อนๆนี้ คุรุผู้เลิศหลายท่านได้ละสังขารและในเดือนนี้ก็เป็นเดือนครบรอบวันที่คุรุเหล่านั้นจากไป ยกตัวอย่างเช่นท่าน ขับเจ ตรุลซิก รินโปเชผู้ล่วงลับ เพื่อเป็น หลายคนรู้สึกหดหู่และเศร้าโศกเสียใจเพราะประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่เมื่อตอนที่คุรุผู้เลิศเหล่านี้จากไปในเดือนกันยายนของปีที่ผ่านๆมา ในเวลาแห่งการสูญเสียมันจึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่จะปฏิบัติธรรมะประเสริฐ เช่นนี้แล้ว
โปรดสวดคาถา 2 บท ข้างล่างนี้ให้มากที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ (1) วัชระ กูรู (2) ดูซุม ซังเจ อันเป็นบทสวดถูกค้นพบโดยท่านชกจูร์ ลิงปะ ซึ่งเป็นผู้นำธรรมสมบัติของคุรุปัทมสมภพมาเปิดเผย (เตตอน) มันจึงเป็นหนึ่งในบทสวดที่มีค่ายิ่งและสำคัญมากในยุคปัจจุบันซึ่งรู้จักกันในนามของ “ยุคเสื่อม”
คาถา วัชระ กูรู (คาถาหัวใจของคุรุปัทมสมภพ) :
โอม อา ฮุง เบนจา กูรู เปมา สิทธิ ฮุง
(บทสวดวิงวอนถึงท่านคุรุปัทมสมภพอันเป็นดั่งตัวแทนของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 กาล) :
ดูซุม ซังเจ กูรู รินโปเช คุรุ รินโปเช
ผู้เป็นดั่งพระพุทธเจ้าทั้งสามกาล
โงดรุป กุนดรัก เดวา เชนโป ฉับ
ผู้ทรงเป็นศูนย์รวมของพลังและความสุข
บาร์เช กุน เซล ดูดูล ดรักโป ซาว
ทรงเปี่ยมไปด้วยพละ ในการขจัดอุปสรรคและกำราบมารทั้งหลาย
โซลวา เดบโซ ชินจี หลับตูโซล
ข้าพเจ้าขอวิวอนแด่ท่าน ได้โปรดประทานพรเหล่านั้น
ชีนัง ซังเว บาร์เช ชีหว่า ดั่ง
โปรดปัดเป่า อุปสรรค ทั้ง ใน เบื้องต้น ท่ามกลาง และบั้นปลาย
ซัมปา ลุน กี ดรุปปาร์ จินกี หลบ
และโปรดทำให้ข้าพเจ้าสมความปรารถนาโดยฉับพลันด้วยเทอญ
ขอมงคลทั้งปวงจงมีแด่พวกเธอทุกคน
ท่านจับกน พักชก รินโปเช